สรุปการเปิดตัว GPT-5 เอไอรุ่นล่าสุดที่มายกระดับ ChatGPT

ai-news 10 Aug 2025

Author : superadmin

8 สิงหาคม 2025 ที่ผ่านมา บริษัท OpenAI ได้เปิดตัว GPT-5 ที่ทางผู้ก่อตั้งและซีอีโอคือ Sam Altman คุยว่าเวอร์ชั่นล่าสุดก่อนนี้คือ GPT-4 นั้น ถูกใช้งานสูงสุดถึงสัปดาห์ละประมาณ 700 ล้านครั้ง

ซึ่ง ChatGPT ที่เราใช้กันอยู่ ก็ได้ถูกอัพเกรดมาใช้ GPT-5 ใหม่นี้กันทั้งโลกแล้ว  โดยเห็นเป็นรูปธรรมได้จากฉากหลังหลากสีสวยงามขึ้น แตกต่างจากเดิมที่พื้นหลังเป็นสีดำหรือขาวเรียบๆ

ซีอีโอ OpenAI ยังประกาศว่าความสามารถของ GPT-5 ใหม่นี้เทียบเท่าระดับปริญญาเอก (PhD) ในหลายสาขา เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การเงิน และกฎหมาย  และมีการปรับปรุงใหญ่ๆหลายอย่าง เช่น…

ลดการผิดพลาดหรือ “มั่วข้อมูล” (hallucination)

ทีมงานยืนยันว่า GPT-5 จะลดการให้ข้อมูลผิดพลาดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และยังปรับปรุงด้านความเร็ว ความแม่นยำ และความน่าเชื่อถือของข้อมูล

โดยมีการสาธิตที่แสดงให้เห็นคะแนนการ Hallucination บน “Health Bench” ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานด้านสุขภาพ ที่ “ระดับความผิดพลาด” ลดลงจาก 15.8 ใน GPT-4 เหลือเพียง 1.6 ใน GPT-5 เท่านั้น คือลด “ความมั่ว” ลงเหลือราว 1 ใน 10 ของรุ่นก่อนนี้กันเลยทีเดียว

การลดลงอย่างก้าวกระโดดนี้ทำให้ GPT-5 เป็นเครื่องมือที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอย่างเรื่องสุขภาพ

เลือกได้ว่าจะ “คิดเร็ว” หรือ “คิดรอบคอบ” โดยอัตโนมัติ ให้เหมาะกับคำถาม

GPT-5 ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถในการตัดสินใจว่าจะใช้กระบวนการ “คิดเร็ว” หรือ “คิดลึก” ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้ใช้งาน

ตัวอย่างเช่นหากเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบง่ายๆ โมเดลจะให้คำตอบอย่างรวดเร็ว เช่นถามข้อมูลพื้นๆ หรือการคำนวณง่ายๆชั้นเดียว

แต่ถ้าเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องใช้การวิเคราะห์เชิงลึก GPT-5 จะใช้เวลาในการประมวลผลและให้คำตอบที่ละเอียดรอบคอบมากขึ้น  เช่นการเขียนโปรแกรมยาวๆ หรือโจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน หรือโมเดลการเงินที่อาศัยข้อมูลมากๆ เป็นต้น

ซึ่งก็เปรียบได้กับการทำงานของสมองมนุษย์ที่เลือกใช้กระบวนการคิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ

ทีมงานได้สาธิตโดยการถาม GPT-5 ให้อธิบายหลักการ Bernoulli effect ว่าทำไมถึงทำให้ปีกเครื่องบินยกตัวขึ้นได้ ?  ผลก็คือ GPT-5 ใช้โหมด “คิดเร็ว” ตอบมาอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อถามต่อโดยขอให้อธิบายออกมาเป็นภาพและแบบจำลองให้เข้าใจมากขึ้น  ผลก็คือ GPT-5 ได้เขียนโค้ดสร้างออกมาเป็น web app ที่มีภาพเคลื่อนไหวรูปปีกเครื่องบิน และมีการจำลองการเคลื่อนไหวของลม  ซึ่งนั่นคือ GPT-5 ได้เข้าโหมด“คิดรอบคอบ” ซับซ้อนเองได้โดยอัตโนมัติ

ช่วยเขียนโค้ดได้ดีขึ้น

เอไอ GPT-5 สามารถไปอยู่ในโปรแกรมช่วยเขียนโค้ด เช่น Visual Studio Code ของไมโครซอฟต์ โดยไปเป็น“cursor AI” ให้โปรแกรมเมอร์สามารถขอให้เอไอช่วยเขียนโค้ดให้ก็ได้ หรือขอให้ช่วยแก้ error แก้โค้ดที่ผิดได้ เปรียบเสมือนเป็นเพื่อนโปรแกรมเมอร์ (pair programmer) ที่มานั่งด้วยตลอด พร้อมช่วยอยู่เสมอ

ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงการสร้างเกมสอนภาษาฝรั่งเศสที่มีตัวละครแบบโต้ตอบได้ภายในเวลาไม่กี่นาที โดยมี UI ที่สวยงาม และมีเสียงออกจากเกมด้วย

ทีมงานยังได้สาธิตการแก้สั่งให้ GPT-5 แก้โค้ดเฉพาะจุด โดยไม่กระทบกับโค้ดส่วนอื่นๆ  เช่นแก้กราฟฟิกในเกมจากตัวงูเป็นตัวหนู  ผลคือทำได้อย่างง่ายดายราบรื่น  ต่างจากเอไอรุ่นเก่าๆที่เมื่อสั่งเอไอให้แก้จุดหนึ่งแล้ว ก็อาจจะจะกระทบจุดอื่นจนผิดพลาดได้

นั่นทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถใช้ ChatGPT ในการค้นหาและแก้ไขบั๊กที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านเครื่องมือ Cursor AI ที่เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมงานที่คอยช่วยแก้ปัญหาได้อย่างฉับไว

นอกจากนั้น GPT-5 ยังรองรับการเรียกใช้งานผ่าน API ได้ยืดหยุ่นขึ้น  นั่นคือการที่เราใช้ซอฟต์แวร์อื่นๆ มาเรียกใช้ความสามารถบางอย่างจาก GPT-5 แล้วนำผลลัพธ์กลับไปเข้าซอฟต์แวร์ตัวนั้นๆเพื่อนำไปประมวลผลต่ออีกที  จะเลือกระดับความซับซ้อนได้ว่าจะเป็นระดับปกติ, ระดับ mini, ระดับ nano และเลือกเครื่องมือย่อยๆให้เหมาะกับโปรแกรม

มีหลายบุคลิกในการคุย

ในการคุยกับเอไอ บางครั้งเราเคยเจอการใช้ระดับภาษาไม่เหมาะสมบ้าง เช่นเมื่อเราชวนคุยเล่น ก็ยังตอบมาแบบเป็นทางการอยู่ แต่ GPT-5 ได้แก้พัฒนาจุดนี้ โดยมีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้เลือก “บุคลิก” (personality) เช่น “Nerd” จริงจังลงลึกละเอียดเรื่องข้อมูล, “Robot” ตรงเป๊ะเหมาะถามการคำนวณหรือวิทยาศาสตร์, “Cynic” ตลกได้ เสียดสีได้, หรือ “Listener” ละเอียดอ่อน ปรึกษาปัญหาชีวิตได้ เป็นต้น

ระบบเสียงที่เหมือนมนุษย์มากขึ้น

GPT-5 มาพร้อมกับโหมดเสียงใหม่ที่ฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น สามารถสลับบทสนทนาระหว่างผู้พูดได้อย่างลื่นไหลกว่าเดิม และยังสามารถปรับระดับความเร็วในการพูดได้อีกด้วย

นั่นทำให้การสนทนาเสียงกับ AI เป็นเรื่องง่ายและเป็นธรรมชาติคล้ายคุยกับคนกว่าเดิม ช่วยให้การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ AI เป็นผู้ช่วยสอนภาษาที่สามารถปรับระดับความเร็วในการพูดได้ตามความเหมาะสม

ผสานกับแอปอื่นๆ เพื่อชีวิตประจำวัน

หนึ่งในการสาธิตที่น่าสนใจคือการใช้ GPT-5 เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Google Calendar และอีเมล

โดยผู้ใช้งานสามารถให้ GPT-5 ช่วยวางแผนตารางการออกกำลังกายจากพฤติกรรมในอดีตและเวลาว่างที่มีอยู่ได้ ซึ่งทำให้การจัดการชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยดึงข้อมูลจากแอป calendar เดิมของผู้ใช้เอง หรือแอปอื่นๆ

เพิ่มความปลอดภัย ป้องกันการใช้ในทางที่ผิด

ในด้านความปลอดภัย GPT-5 ไม่ได้จำกัดแค่การปฏิเสธคำขอที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น แต่จะมีการอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่สามารถทำตามคำขอนั้นๆ ได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจในข้อจำกัดและเรียนรู้แนวทางที่ถูกต้องในการใช้งาน AI มากขึ้น

เพิ่มความรู้ด้านสุขภาพ

ทีมงานได้กรณีผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งคนหนึ่ง ที่ใช้ GPT-4 ช่วยอ่านและทำความเข้าใจรายงานทางการแพทย์ที่เข้าใจยากให้เข้าใจง่ายขึ้น ช่วยให้เธอสามารถตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน

ลดพฤติกรรมการเอาใจเกินไป (less sycophantic)

GPT-5 มีแนวโน้มตอบแบบตรงไปตรงมา ไม่โอนอ่อนตามผู้ใช้จนเกินไป ซึ่งช่วยให้การโต้ตอบมีความสมจริงและน่าเชื่อถือมากขึ้น

… ฯลฯ

GPT-5  ได้เปิดให้ใช้งานแล้วใน ChatGPT ทั้งรุ่นเว็บและรุ่นแอป ทั้งในเวอร์ชัน Free, Plus, Pro และ Business (ที่เหมาะใช้ทำงานเป็นทีม)

Share :

Start using PAM today

Reach every customer steps, make every action count.