รู้จัก Rob LoCascio ผู้บุกเบิกซอฟต์แวร์การตลาดมากว่า 30 ปี : MarTech People EP.02

martech people 05 Aug 2025

Author : superadmin

ในโลกธุรกิจเทคโนโลยี มีเรื่องราวความสำเร็จที่น่าทึ่งของคนหนุ่มสาวที่ก่อตั้งบริษัทแล้วประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย

แต่นอกเหนือจากเรื่องราวเหล่านั้น ยังมีเรื่องราวของ “นักสู้” ผู้ประกอบการอีกมากมายที่ต้องฝ่าฟันความล้มเหลว ความผิดพลาด และการเรียนรู้ครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะก้าวสู่ความสำเร็จ

ตัวอย่างเช่น Robert “Rob” LoCascio ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ LivePerson หนึ่งในบริษัทผู้บุกเบิกซอฟต์แวร์ด้าน martech ที่ได้ผ่านอุปสรรคต่างๆและผ่านมาได้ถึงทุกวันนี้

เริ่มต้นจากลูกจ้างที่โดน lay off

ร็อบ โลคาสซิโอ เกิดในปี 1968 ที่นิวยอร์ก และจบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย Loyola University Maryland ในปี 1990 เมื่ออายุ 22 ปี

หลังจากเรียนจบ เขาได้เริ่มต้นงานแรกในชีวิตในตำแหน่งพนักงานค้าขายเคมีภัณฑ์ระหว่างประเทศแค่ 6 เดือน บริษัทก็ประสบปัญหาทางการเงินและต้องปลดพนักงานซึ่งเขาก็โดนด้วย หลังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าจะไม่ทำงานเป็นลูกจ้างใครอีก โดยจะทำธุรกิจของตัวเองเท่านั้น

จากนั้นร็อบนำเงินส่วนตัวและเงินกู้จากบัตรเครดิตทั้งหมด มาก่อตั้งธุรกิจแรกชื่อ  Sybarite Media ในปี 1991 โดยทำธุรกิจตู้ kiosks ที่มีหน้าจอสัมผัส ให้ผู้คนสามารถกดสอบถามข้อมูลต่างๆได้

รายได้ของ Sybarite นั้นก็มาจากการขายพื้นที่โฆษณาในตู้ และจากการทำตู้ข้อมูลให้กับศูนย์การค้าและสถานที่ต่างๆ ในยุคที่อินเตอร์เน็ตยังไม่มีใช้ตามบ้านกัน และยังไม่มีสมาร์ทโฟนในโลก

ธุรกิจล้มครั้งแรก โดน disrupt โดยอินเตอร์เน็ต

บริษัท Sybarite Media ของร็อบอยู่ได้นาน 4 ปี จุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง เมื่อเข้าสู่ช่วงปี 1995 โลกก็ได้รู้จักกับอินเตอร์เน็ตและ “world wide web” ทำให้ตู้ kiosks ของเขากลายเป็นของล้าสมัยไปในทันที

ร็อบเล่าถึงประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นว่า ผู้คนเริ่มหันไปใช้บริการอินเตอร์เน็ตตามคาเฟ่หรือที่บ้าน แทนที่จะมาใช้ตู้ของเขา ส่วนแบรนด์ห้างร้านต่างๆก็เลิกใช้ตู้ และไปสร้างเว็บไซต์และลงโฆษณาทางเว็บต่างๆแทน

หลังจากลูกค้ากดหาย ผู้ใช้งานตีจาก และขาดทุนต่อเนื่อง เขาจึงตัดสินใจปิดกิจการแรกนี้ลง

ก่อตั้ง LivePerson ฝ่าฟันฟองสบู่ดอทคอม

ปี 1995 ร็อบได้ก่อตั้งบริษัทแห่งที่สองขึ้นมาในชื่อ LivePerson ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ระบบ “ถามตอบกับลูกค้า” แบบ Interactive ที่สามารถนำไปติดตั้งบนเว็บไซต์ของลูกค้าองค์กรต่างๆ ได้ ซึ่งธุรกิจก็เติบโตได้ดีในช่วง 5 ปีแรก

จากนั้นในช่วงปี 2000 – 2001  เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่ยุค “ฟองสบู่ดอตคอม” (Dot Com Bubble) ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเว็บไซต์เกิดขึ้นมากมายและได้รับเงินลงทุนมหาศาลจากบรรดากองทุน venture capital

เป้าหมายหลักของธุรกิจ dot com ยุคนั้น คือการเร่งสร้างยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้ได้มากที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการระดมทุนและเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ โดยไม่สนใจตัวเลขกำไรและความยั่งยืนใดๆ

นั่นนำมาซึ่งปัญหาใหญ่คือแทบทุกบริษัทมีแต่รายจ่ายและเลขขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆในการโฆษณาและขยายธุรกิจ จนกองทุนต่างๆ เริ่มปฏิเสธที่จะเพิ่มเงินทุนให้

สุดท้ายบริษัทเว็บไซต์จำนวนมากจึงต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็วเป็นลูกโซ่ ซึ่งเป็นที่มาของปรากฏการณ์ “ฟองสบู่ดอตคอมแตก”

ช่วงนั้นบริษัท LivePerson ก็ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ตั้งแต่ปี 2000 แต่ร็อบ โลคาสซิโอ ไม่เคยพาบริษัทของเขาเข้าไปในวังวนของการเร่งเติบโตฟองสบู่นี้

ร็อบเคยให้สัมภาษณ์ว่ายุคนั้นเขารู้สึก “เอะใจ” กับแนวทางฟองสบู่ ทุ่มเงินเพื่อดึงคนเข้าเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว และได้คำนวณว่าถ้าทำตามแนวทางนั้น บริษัทของเขาจะล้มละลายภายในไม่กี่ปี

นั่นทำให้เขาตัดสินใจที่จะไม่ทำตามกระแส และมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายได้และกำไรที่แท้จริงจากลูกค้าธุรกิจซอฟต์แวร์ จนรอดฟองสบู่มาได้

พัฒนาการของ LivePerson สู่ยุค Chatbot และ AI

หลังวิกฤตฟองสบู่ดอตคอม LivePerson ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ซอฟต์แวร์ของพวกเขาทำงานอยู่บนเว็บไซต์เท่านั้น ก็ได้ขยายขีดความสามารถเข้าไปในแพลตฟอร์มออนไลน์และโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, LINE และอื่นๆ อีกมากมาย

ประโยชน์ของซอฟต์แวร์ LivePerson คือการช่วยให้บริษัทและองค์กรต่างๆ สามารถรวมคำถามจากผู้ใช้ในหลายๆ ช่องทางมาไว้ที่ศูนย์กลาง ทำให้ทีมงานสามารถตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ระบบสามารถแชทตอบโต้ลูกค้าได้โดยอัตโนมัติในเบื้องต้น แม้จะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา

และเมื่อเทคโนโลยี AI เริ่มมีบทบาทสำคัญ LivePerson ก็ได้นำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบคำถามและให้บริการลูกค้าแบบอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นด้วย

ปัจจุบันบริษัท LivePerson อยู่ในตลาดหุ้นแนสแดค สหรัฐอเมริกา ด้วยตัวย่อว่า LPSN โดยจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในนั้นมาตั้งแต่พฤษภาคม ปี ค.ศ. 2000 ก่อนวิกฤตฟองสบู่ดอตคอมแตก (Dot Com Bubble Burst) ไม่นาน

และปัจจุบัน Rob LoCascio ก็ได้ร่วมกับทางการเมืองนิวยอร์ก ก่อตั้งและบริหาร “สภาผู้ประกอบการแห่งเมืองนิวยอร์ก” ( NYC Entrepreneurs Council ) เพื่อสนับสนุนและให้คำแนะนำผู้ประกอบการรายย่อยและหน้าใหม่ และยังก่อตั้งกับบริหารกองทุน NYC Venture Fellows มาสนับสนุนธุรกิจใหม่ ๆ ในนิวยอร์กอีกด้วย

เรื่องราวของ ร็อบ โลคาสซิโอ เป็นหนึ่งในตัวอย่างผู้ประกอบการเทคที่ไม่ย่อท้อต่อความล้มเหลว เรียนรู้จากความผิดพลาด และการปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา และหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการ MarTech มาถึงปัจจุบัน

ข้อมูลและภาพประกอบจาก

en.wikipedia.org/wiki/Robert_LoCascio

medium.com/authority-magazine/the-future-of-retail-over-the-next-five-years-with-rob-locascio-founder-and-ceo-of-liveperson-93091c683889

liveperson.com/solutions/contact-center-solutions

chatlingual.com/liveperson-translation

Share :

Start using PAM today

Reach every customer steps, make every action count.

Related Blogs

martech people

ย้อนตำนาน Salesforce ผู้บุกเบิกโมเดลธุรกิจ SaaS : MarTech People EP.01

ปัจจุบัน วงการซอฟต์แวร์ต่างก็ใช้โมเดลธุรกิจ “Software as a Service” ตัวย่อว่า SaaS หมายถึงการที่องค์กรจ่ายค่าบริการคล้ายค่าเช่าเป็นรายเดือน มากน้อยชึ้นกับฟีเจอร์ที่เปิดใช้, จำนวน user, และปริมาณข้อมูล โดยข้อมูลเก็บไว้บนเซิฟเวอร์ หรือเรียกกันว่า cloud (คลาวด์) ซึ่ง Salesforce ก็คือหนึ่งในบริษัทแรกๆ...

martech people

ย้อนประวัติ Zendesk ซอฟต์แวร์ martech สายบริการลูกค้า : MarTech People EP.03

ในยุคที่ martech เป็นเครื่องมือสำคัญในด้านการบริการและจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) หนึ่งในซอฟต์แวร์ชื่อดังระดับโลกด้านนี้ก็คือ Zendesk Zendesk ทำงานเป็นระบบหลังบ้านที่รวมช่องทางการติดต่อลูกค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, LINE, อีเมล, เว็บไซต์ หรือแม้แต่โทรศัพท์ เมื่อลูกค้าติดต่อเข้ามา ระบบจะคัดเลือกพนักงานบริการหรือแชทบอทที่เหมาะสม ตอบคำถามและแก้ไขปัญหาต่างๆนั้น จะใช้ระบบ “ticketing”...