
Lead Nurturing ปั้นกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้า : [ MarTech Basic EP.11 ]
martech-basic 17 Sep 2025
Author : superadmin

Lead Nurturing เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ คือการดูแลคนที่สนใจสินค้าของเราอย่างต่อเนื่อง จนกว่าพวกเขาจะพร้อมที่จะซื้อ แทนที่จะรีบเร่งขายตั้งแต่แรกพบ เราจะค่อยๆ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สร้างความไว้วางใจ จนสุดท้ายพวกเขาจะเลือกซื้อจากเราเอง
ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารล้นเหลือ ลูกค้าสามารถเลือกได้เยอะมาก Lead Nurturing เลยกลายเป็นอาวุธลับที่ช่วยให้เราโดดเด่นจากคู่แข่ง มีการศึกษาจาก DemandGen Report พบว่าบริษัทที่ใช้เทคนิคนี้ขายได้เพิ่มขึ้น 20% เลยทีเดียว
การเดินทางของลูกค้า: จากไม่รู้จัก มาเป็นลูกค้าจริง
คิดง่ายๆ ว่าลูกค้าจะผ่าน 4 ขั้นตอน คือ รู้จัก → สนใจ → อยาก → ซื้อ หรือที่เรียกว่า AIDA (Attention, Interest, Desire, Action) เหมือนกับการจีบสาว ไม่สามารถขอแต่งงานตั้งแต่วันแรกที่เจอได้
ลูกค้าจะมี 3 ช่วงใหญ่ๆ ในการตัดสินใจ ได้แก่ ช่วงแรก คือเพิ่งรู้ว่ามีปัญหา ช่วงกลาง คือหาทางแก้ไข และช่วงสุดท้าย คือตัดสินใจเลือกซื้อ Lead Nurturing จะช่วยส่งข้อมูลที่เหมาะสมในแต่ละช่วงนี้
การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว
แทนที่จะมองลูกค้าเป็นแค่คนที่มาซื้อสินค้าครั้งเดียว เราควรมองว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่อยากสร้างความสัมพันธ์ยาวๆ หลักการนี้เรียกว่า Relationship Marketing
การศึกษาจาก Harvard Business Review บอกว่าหาลูกค้าใหม่แพงกว่าเก็บลูกค้าเก่าถึง 5-25 เท่า เพราะงั้น Lead Nurturing จึงคุ้มค่าทั้งเวลาและเงิน
เครื่องมือสำคัญของ Lead Nurturing

การแบ่งกลุ่มลูกค้า: ใครเป็นใคร อยากได้อะไร
ลองนึกภาพร้านขายเสื้อผ้า เราไม่สามารถเอาเสื้อผู้ชายไปเสนอผู้หญิงได้ การแบ่งกลุ่มลูกค้าก็เหมือนกัน เราต้องรู้ว่าแต่ละคนต่างกันยังไง มีความต้องการแบบไหน
ตัวอย่างเช่น บริษัทขายโปรแกรม อาจจะแบ่งลูกค้าตามขนาดบริษัท (SME, Enterprise) หรือตามตำแหน่งงาน (เจ้าของกิจการ, ผู้จัดการ IT) เพื่อส่งข้อมูลที่ตรงใจแต่ละกลุ่ม
เนื้อหาที่มีประโยชน์: ให้ก่อน ขายทีหลัง
เนื้อหาคือหัวใจของ Lead Nurturing เนื้อหาที่ดีต้องช่วยแก้ปัญหาของลูกค้า ไม่ใช่พูดแต่เรื่องสินค้าของเรา คิดง่ายๆ ว่าถ้าเราเป็นลูกค้า เราอยากได้อะไร
HubSpot เป็นตัวอย่างที่เยี่ยม พวกเขาทำ Blog, E-book, และ Webinar ให้ฟรี สอนเรื่อง Digital Marketing ให้คนทั่วไป แทนที่จะขายซอฟต์แวร์โดยตรง สุดท้ายคนที่ได้ความรู้จากพวกเขาก็มาซื้อซอฟต์แวร์ด้วย
Email อัตโนมัติ: ส่งข้อความที่ใช่ ในเวลาที่ใช่
Email ยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการติดต่อลูกค้า เพราะส่งได้เป็นรายบุคคล และวัดผลได้ชัดเจน ระบบอัตโนมัติจะช่วยส่ง Email ที่เหมาะสมตามพฤติกรรมของแต่ละคน
Campaign Monitor พบว่า Email อัตโนมัติมีคนเปิดอ่านมากกว่า Email ธรรมดา 70.5% และมีคนคลิกลิงค์มากกว่า 152% ทำให้การลงทุนคุ้มค่ามาก
การให้คะแนนลูกค้าที่มีโอกาส
เหมือนเกมที่ให้คะแนนผู้เล่น เราให้คะแนนลูกค้าแต่ละคนตามโอกาสที่เขาจะซื้อ คนที่ได้คะแนนสูง ทีมขายควรติดตามเป็นพิเศษ
การให้คะแนนดูจากหลายอย่าง เช่น ดูเว็บไซต์เราบ่อยแค่ไหน เปิด Email เราไหม หรือดาวน์โหลดเอกสารจากเราไหม
เทคนิคที่ทำให้ Lead Nurturing ได้ผล
ใช้หลายช่องทางติดต่อ
อย่าเก็งว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนตลอดเวลา บางคนชอบอ่าน Email บางคนชอบดู Facebook บางคนต้องโทรหา การใช้หลายช่องทางจะเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้า
ซึ่งผลสำรวจพบว่าการใช้หลายช่องทางพร้อมกันจะมี Engagement สูงกว่าการใช้ช่องทางเดียว 250%
จังหวะเวลาและความถี่ที่เหมาะสม
การส่งข้อความต้องมีจังหวะ ส่งบ่อยเกินไปลูกค้าจะรำคาญ ส่งน้อยเกินไปจะถูกลืม เหมือนการสื่อสารกับเพื่อน ต้องพอดี
ผลสำรวจมากมายพบว่าควรส่ง Email สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งสำหรับลูกค้าใหม่ และอาจส่งทุกวันสำหรับลูกค้าที่ใกล้ตัดสินใจซื้อ
ใช้คำรับรองจากลูกค้าเก่า
คนเรามักเชื่อคำพูดของคนอื่นมากกว่าการโฆษณา การแชร์เรื่องราวลูกค้าที่พอใจ หรือรีวิวดีๆ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าใหม่
ผลสำรวจพบว่า 88% ของคนเชื่อ Review ออนไลน์เท่ากับคำแนะนำจากเพื่อน ทำให้การรวมรีวิวเข้าไปใน Email หรือเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมาก
การวัดผลและปรับปรุงให้ดีขึ้น

ตัวเลขที่ต้องจับตาดู
การทำ Lead Nurturing ต้องดูตัวเลขเพื่อรู้ว่าได้ผลแค่ไหน เช่น มีกี่คนเปิด Email กี่คนคลิกลิงค์ กี่คนกลายเป็นลูกค้า ใช้เวลาในการตัดสินใจนานแค่ไหน
การติดตามตัวเลขเหล่านี้จะช่วยให้รู้จุดที่ต้องแก้ไข และคำนวณความคุ้มค่าของการลงทุน
การทดสอบแบบ A/B
เหมือนการทดลองวิทยาศาสตร์ โดยเราอาจจะลองส่ง Email 2 แบบให้กลุ่มคนละครึ่ง แล้วดูว่าแบบไหนได้ผลดีกว่า อาจทดลองหัวข้อ Email เนื้อหา หรือปุ่มกดต่างๆ
ผลสำรวจจาก Mailchimp รายงานว่าบริษัทที่ทำการทดสอบนี้สม่ำเสมอจะมี Conversion Rate สูงกว่าถึง 49%
ฟังความคิดเห็นจากลูกค้า
อย่าลืมถามลูกค้าว่าพอใจไหม อยากได้อะไรเพิ่มเติม การฟังความคิดเห็นจะช่วยให้เราปรับปรุงได้ตรงจุด
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
ขายแรงเกินไป
หลายบริษัททำผิดพลาดโดยส่งข้อความขายตลอดเวลา แทนที่จะให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ก่อน ลูกค้าจะรู้สึกถูกกดดันและหนีไป … ซึ่งกฎทองคือ ให้ข้อมูลดีๆ 80% ขายของ 20% แค่นั้น
ไม่ดูผลลัพธ์
การทิ้งข้อมูลไว้โดยไม่ดู ไม่วิเคราะห์ ไม่ปรับปรุง เหมือนขับรถหลับตา จะไม่รู้ว่าไปถูกทางหรือเปล่า ต้องตั้งเวลาดูผลและปรับแก้เป็นประจำ
ส่งข้อความเดียวกันให้ทุกคน
การส่ง Email เดียวกันให้ทุกคนโดยไม่สนใจว่าแต่ละคนต่างกัน จะทำให้เนื้อหาไม่เข้าใจกับความต้องการ ยุคนี้ต้อง Personalization ถึงจะอยู่รอด
สรุป: Lead Nurturing คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
Lead Nurturing เป็นเทคนิคที่ช่วยเปลี่ยนคนที่แค่สนใจให้กลายเป็นลูกค้าจริง ด้วยการดูแลความสัมพันธ์และให้คุณค่าแบบต่อเนื่อง ไม่ใช่การรีบร้อนขาย
ความสำเร็จของ Lead Nurturing ขึ้นอยู่กับ 3 สิ่ง: เข้าใจลูกค้า สร้างเนื้อหาดีๆ และใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด
ในยุคที่ข้อมูลล้นเหลือและลูกค้ามีตัวเลือกเยอะ การสร้างความไว้วางใจผ่าน Lead Nurturing กลายเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ บริษัทที่ทำได้ดีจะเติบโตและมีลูกค้าที่แข็งแกร่งในระยะยาว
การลงทุนใน Lead Nurturing ไม่ได้แค่เพิ่มยอดขาย แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า ซึ่งจะคืนค่าในรูปของธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
…
และในตอนต่อไป เราจะไปสำรวจตัวอย่างการทำ Lead Nurturing ในธุรกิจหลากหลายต่างๆกัน โปรดติดตามได้ที่นี่
. : รู้จัก PAM Realtime CDP ซอฟต์แวร์ที่ช่วยทำ Lead Nurturing ได้ที่ PAMs.ai : .
[ ภาพประกอบจาก freepik.com ]
Share :
Start using PAM today
Reach every customer steps, make every action count.