รู้จัก Snowflake บริษัทซอฟต์แวร์ด้านคลังข้อมูลบนคลาวด์ : [ MarTech People EP. ]

Snowflake เป็นบริษัทซอฟต์แวร์คลาวด์ที่นำเสนอ คลังข้อมูลแบบ Software-as-a-Service (SaaS) ซึ่งปฏิวัติวงการการจัดการข้อมูลอย่างสิ้นเชิง ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยสามวิศวกรซอฟต์แวร์ผู้มากประสบการณ์จากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแพลตฟอร์มคลังข้อมูลที่ใช้งานง่าย ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการเติบโตของข้อมูลได้

ก่อนที่ Snowflake จะเกิดขึ้น องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ คลังข้อมูลแบบดั้งเดิมมักจะมีค่าใช้จ่ายสูง ซับซ้อน และไม่สามารถปรับขนาดได้ตามต้องการ แต่ Snowflake ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยสถาปัตยกรรมแบบคลาวด์เนทีฟที่แยกส่วนการประมวลผล (compute) และการจัดเก็บ (storage) ออกจากกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับขนาดทรัพยากรได้อย่างอิสระตามความต้องการใช้งานจริง ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก

ผู้ร่วมก่อตั้ง: สามวิศวกรผู้สร้างสรรค์

Snowflake ก่อตั้งโดยสามวิศวกรจากบริษัทใหญ่ๆในอุตสาหกรรมฐานข้อมูล ได้แก่ Benoit Dageville, Thierry Cruanes และ Marcin Żukowski

1. Benoit Dageville
   
   Benoit Dageville เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ (President of Product) ของ Snowflake เขาเป็นวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านฐานข้อมูลอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะด้านสถาปัตยกรรมและการปรับปรุงประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้ Dageville เคยทำงานที่ Oracle เป็นเวลานานกว่า 16 ปีในตำแหน่ง Senior Director ของทีมพัฒนาฐานข้อมูล
   
   ก่อนที่จะร่วมก่อตั้ง Snowflake เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านฐานข้อมูลระดับโลกที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย Dageville เป็นผู้นำในการสร้างวิสัยทัศน์ด้านผลิตภัณฑ์ของ Snowflake และมีบทบาทสำคัญในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของแพลตฟอร์ม
   
2. Thierry Cruanes
   
   Thierry Cruanes เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานบริหารฝ่ายวิศวกรรม (Executive Vice President of Engineering) ของ Snowflake เขามีประสบการณ์ด้านฐานข้อมูลที่คล้ายคลึงกับ Dageville โดยเคยทำงานที่ Oracle มาก่อนเช่นกันในตำแหน่ง Senior Director ของทีมพัฒนาฐานข้อมูล เป็นเวลา 15 ปี Cruanes มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการประมวลผลแบบขนาน (parallel processing) และการจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน
   เขาเป็นผู้นำทีมวิศวกรในการพัฒนาและสร้างแพลตฟอร์ม Snowflake ตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้วิสัยทัศน์ของ Dageville กลายเป็นจริง Cruanes เป็นที่รู้จักในฐานะวิศวกรที่มุ่งมั่นและใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างความเสถียรและความน่าเชื่อถือให้กับระบบของ Snowflake
   
3. Marcin Żukowski
   Marcin Żukowski เป็นผู้ร่วมก่อตั้งคนที่สามและหัวหน้าสถาปนิกด้านฐานข้อมูล (Chief Database Architect) ของ Snowflake เขาเป็นนักวิจัยและนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการประมวลผลฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (analytical database) อย่างยิ่งยวด
   
   ก่อนที่จะร่วมก่อตั้ง Snowflake Żukowski เป็นอาจารย์และนักวิจัยที่ CWI (สถาบันวิจัยทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ในเนเธอร์แลนด์) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Vectorwise (ซึ่งต่อมาถูกซื้อกิจการโดย Actian) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง Żukowski ได้นำความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการออกแบบฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ของเขามาใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีการประมวลผลข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพของ Snowflake ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแพลตฟอร์ม

การพัฒนาซอฟต์แวร์ Snowflake และสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร

แนวคิดหลักที่ทำให้ Snowflake แตกต่างจากคู่แข่งคือ สถาปัตยกรรม Multi-Cluster Shared Data หรือ สถาปัตยกรรมแบบแยกส่วน (Decoupled Architecture) ที่แยกการประมวลผล (Compute) และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (Storage) ออกจากกันอย่างเด็ดขาด

ส่วนประกอบหลักของสถาปัตยกรรม Snowflake

Storage Layer

ใช้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์สาธารณะ เช่น Amazon S3, Azure Blob Storage หรือ Google Cloud Storage ข้อมูลจะถูกจัดเก็บในรูปแบบที่ถูกบีบอัดและถูกแบ่งส่วน (Micro-partition) ซึ่งช่วยให้การสืบค้นข้อมูลมีประสิทธิภาพสูง

Compute Layer

ส่วนนี้ประกอบด้วย Virtual Warehouses ที่เป็นกลุ่มของทรัพยากรการประมวลผลอิสระ แต่ละ Virtual Warehouse สามารถถูกปรับขนาด (Scale Up/Down) หรือหยุดการทำงานได้ตามต้องการ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจ่ายเงินเฉพาะในส่วนที่ใช้งานจริง และสามารถรันงานวิเคราะห์ที่แตกต่างกันพร้อมกันได้โดยไม่กระทบกัน

Cloud Services Layer

เป็นสมองของระบบที่จัดการทุกอย่างตั้งแต่การควบคุมการเข้าถึงข้อมูล การเพิ่มประสิทธิภาพการสืบค้น การจัดการเซสชัน และการจัดการ Virtual Warehouses ชั้นนี้ทำให้ Snowflake ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

สถาปัตยกรรมนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถขยายขนาดการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างไร้ขีดจำกัดโดยไม่จำเป็นต้องขยายขนาดการประมวลผล และในทางกลับกัน ก็สามารถขยายการประมวลผลได้อย่างรวดเร็วเพื่อรองรับงานที่ต้องการทรัพยากรสูงโดยไม่กระทบต่อข้อมูลที่จัดเก็บไว้

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Snowflake

แพลตฟอร์ม Snowflake มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ปฏิวัติวงการมากมาย ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

1. Zero-Management
   Snowflake เป็น Data Warehouse as a Service (DWaaS) ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ไม่ต้องกังวลกับการบำรุงรักษา การติดตั้งแพตช์ หรือการอัปเกรดระบบ ตัวแพลตฟอร์มจะจัดการทุกอย่างโดยอัตโนมัติ ทำให้ทีมไอทีสามารถมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ข้อมูลได้เต็มที่
   
2. Scalability & Elasticity
   ความสามารถในการปรับขนาดที่ยืดหยุ่นเป็นจุดแข็งที่สุดของ Snowflake ผู้ใช้สามารถ เพิ่มหรือลดขนาด Virtual Warehouse ได้ในไม่กี่วินาที ตัวอย่างเช่น หากต้องการรันรายงานที่ใช้ทรัพยากรสูง สามารถเพิ่มขนาด Virtual Warehouse เป็น “4X-Large” และหลังจากงานเสร็จสิ้นก็สามารถลดขนาดกลับมาเป็น “Small” ได้ทันที
   
3. Concurrency
   ด้วยสถาปัตยกรรม Multi-Cluster Shared Data ผู้ใช้หลายคนหรือหลายทีมสามารถรันการสืบค้นข้อมูลพร้อมกันได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของกันและกัน
   
4. Time Travel
   ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ย้อนเวลากลับไปดูข้อมูล ในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้สูงสุด 90 วัน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการกู้คืนข้อมูลที่ถูกลบหรือแก้ไขโดยไม่ตั้งใจ และสำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
   
5. Data Sharing
   Snowflake ช่วยให้การ แบ่งปันข้อมูล ภายในองค์กรหรือกับพันธมิตรภายนอกทำได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย โดยไม่ต้องย้ายข้อมูลจริง ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกแบ่งปันได้ทันที
   
6. Multi-Cloud & Multi-Region Support
   Snowflake ไม่ได้ผูกติดกับผู้ให้บริการคลาวด์รายใดรายหนึ่ง ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานบน Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure หรือ Google Cloud Platform (GCP) และสามารถย้ายข้อมูลข้าม Region ได้อย่างง่ายดาย

การเติบโตและการขยายตัว

หลังจากก่อตั้งในปี 2012 Snowflake ได้ระดมทุนจากนักลงทุนชั้นนำและเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการในปี 2014 แพลตฟอร์มของพวกเขาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ธุรกิจต่างๆ ตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากความง่ายในการใช้งาน ความยืดหยุ่น และค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า

ปี 2014 Snowflake เปิดตัวแพลตฟอร์มเชิงพาณิชย์ ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากองค์กรทั่วโลก ทั้งในด้านเทคโนโลยีและความสามารถในการตอบสนองความต้องการด้านข้อมูลที่ซับซ้อน บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้ระดมทุนจากนักลงทุนชั้นนำหลายราย

ปี 2018 Snowflake เปิดตัวบน Microsoft Azure และขยายบริการไปทั่วโลก

ปี 2020 Snowflake ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) โดยมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเวลานั้น นับเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จและศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของบริษัท

ปัจจุบัน Snowflake ไม่ได้เป็นเพียงแค่คลังข้อมูลอีกต่อไป แต่ได้พัฒนาไปเป็น Data Cloud ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างแอปพลิเคชันข้อมูล (Data Applications) ทำงานร่วมกับนักพัฒนาภายนอก และใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างเต็มที่

สรุป
Snowflake ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดข้อมูล เช่น Snowpark สำหรับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และ Data Marketplace สำหรับการแบ่งปันข้อมูล

Snowflake ได้ปฏิวัติวงการคลังข้อมูลด้วยการนำเสนอ สถาปัตยกรรมแบบแยกส่วน (Decoupled Architecture) ที่มีประสิทธิภาพสูง ยืดหยุ่น และคุ้มค่า ด้วยผู้ก่อตั้งที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและประสบการณ์ในอุตสาหกรรม ทำให้

Snowflake สามารถแก้ไขปัญหาที่ค้างคามานานในระบบฐานข้อมูลแบบดั้งเดิมได้สำเร็จ ฟีเจอร์เด่นๆ เช่น การปรับขนาดได้อย่างอิสระ, การจัดการแบบอัตโนมัติ, การเดินทางข้ามเวลา และความสามารถในการแบ่งปันข้อมูล ได้ทำให้ Snowflake กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

ภาพประกอบจาก

https://siliconangle.com/2019/06/04/snowflake-brings-popular-data-warehouse-service-google-cloud

. : รู้จัก PAM Realtime CDP ซอฟต์แวร์การตลาดอัตโนมัติไทย ที่ PAMs.ai : .