Seth Godin: นักเขียน นักคิด และผู้พลิกโฉมการตลาดยุคใหม่ : [ MarTech Read EP.02 ]

หากเอ่ยชื่อ Seth Godin คนในวงการการตลาดเกือบทุกคนต้องเคยได้ยิน เขาคือผู้เขียนหนังสือการตลาดที่มียอดขายระดับ Best Seller ของ New York Times มากกว่า 20 เล่ม เจ้าของบล็อกการตลาดที่มีคนอ่านมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และยังเป็นอดีตผู้ประกอบการสตาร์ตอัปที่ประสบความสำเร็จจนถูก Yahoo! ซื้อกิจการ

Seth Godin เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1960 ที่ Mount Vernon รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวชั้นกลางที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา เขาเป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือ และหลงใหลในงานเขียนมาตั้งแต่เล็ก แต่ในขณะเดียวกันก็สนใจเรื่องธุรกิจและการตลาดด้วย ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเส้นทางชีวิตหลักที่หลอมรวมทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน

เส้นทางการศึกษาและจุดเปลี่ยน

Seth เข้าเรียนที่ Tufts University สาขาวิชาคอมพิวเตอร์และปรัชญา ก่อนจะต่อปริญญาโท MBA ที่ Stanford Graduate School of Business ที่นั่นเองที่ทำให้เขาได้สัมผัสกับวัฒนธรรมสตาร์ตอัปและโลกธุรกิจด้านเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด

ช่วงเรียน MBA ที่สแตนฟอร์ด เขาทำงานพิเศษในบริษัทสื่อดั้งเดิม และได้ตระหนักว่าธุรกิจโฆษณาแบบ “ยัดเยียด” (Interruption Marketing) กำลังถึงทางตัน เนื่องจากผู้คนเริ่มไม่สนใจโฆษณาที่ไม่ได้เลือกเอง ประสบการณ์นี้ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่เขานำมาพัฒนาทฤษฎีและแนวคิดทางการตลาดใหม่ ๆ ในภายหลัง

เริ่มต้นอาชีพและความท้าทายในยุคแรก

หลังเรียนจบ Seth Godin ทำงานในบริษัทซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก และต่อมาได้เปิดบริษัทของตัวเองชื่อ Seth Godin Productions ซึ่งทำงานด้านสื่อและพัฒนาซอฟต์แวร์การศึกษา แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ แต่ก็ทำให้เขาเรียนรู้การทำธุรกิจด้วยตัวเอง

สิ่งที่น่าสนใจคือ Seth ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็น “กูรูการตลาด” อย่างที่หลายคนมองในภายหลัง แต่เขาค่อย ๆ ก่อร่างสร้างแนวคิดจากการลองผิดลองถูกในโลกธุรกิจจริง ๆ และนำประสบการณ์เหล่านั้นมาเล่า ถ่ายทอด และขยายเป็นหลักคิด

ก้าวสู่โลกสตาร์ตอัปและจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่

ปี 1995 Seth ก่อตั้งบริษัท Yoyodyne ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสตาร์ตอัปด้านการตลาดออนไลน์ยุคบุกเบิก โมเดลของบริษัทคือใช้เกมออนไลน์ การแข่งขัน และกิจกรรมเชิงโต้ตอบเพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ แทนที่จะส่งโฆษณาแบบยัดเยียด

แนวคิดนี้ล้ำสมัยมากในยุคนั้น และถูกยกให้เป็น “Interactive Direct Marketing” ซึ่งภายหลังกลายเป็นต้นแบบของการตลาดเชิงเนื้อหา (Content Marketing) และการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยการมีส่วนร่วม (Engagement Marketing)

ในปี 1998 Yahoo! เข้าซื้อกิจการ Yoyodyne ในมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดึง Seth เข้าไปทำงานเป็น Vice President of Direct Marketing ที่ Yahoo! ประสบการณ์ครั้งนี้ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่าการตลาดต้องเปลี่ยนจากการ “รบกวน” ผู้คน มาเป็นการ “สร้างสิ่งที่มีคุณค่า” ให้กับผู้คนแทน

การเปลี่ยนบทบาทเป็นนักเขียนเต็มตัว

หลังออกจาก Yahoo! Seth Godin หันมาทุ่มเทให้กับการเขียนหนังสือและการบรรยาย โดยในปี 1999 เขาออกหนังสือเล่มสำคัญชื่อ Permission Marketing ซึ่งกลายเป็นผลงานสร้างชื่อ และถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหนังสือการตลาดที่ทรงอิทธิพลที่สุด

แนวคิด “Permission Marketing” ของ Seth คือการตลาดที่ผู้บริโภค “อนุญาต” ให้เข้ามาในชีวิตของเขา เช่น การสมัครรับอีเมล ข่าวสาร หรือการติดตามเพจแบรนด์ ไม่ใช่การโฆษณาที่แทรกเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ความคิดนี้ไปไกลกว่าการตลาดแบบเดิม และปูทางให้เกิดแนวคิด Inbound Marketing และ Content Marketing ที่ธุรกิจทั่วโลกใช้กันในปัจจุบัน

หนังสือที่เขย่าโลกการตลาด

Seth Godin เขียนหนังสือกว่า 20 เล่ม และมียอดขายรวมหลายล้านเล่มทั่วโลก หนังสือที่โดดเด่น ได้แก่ …

• Permission Marketing (1999): อธิบายการตลาดที่ขออนุญาตและสร้างความสัมพันธ์ยั่งยืนกับลูกค้า
• Purple Cow (2003): เสนอว่าธุรกิจต้อง “โดดเด่น” เหมือนวัวสีม่วงที่ใคร ๆ ก็หันมามอง
• The Dip (2007): พูดถึงการรู้ว่าเมื่อไรควร “ยอมแพ้” และเมื่อไรควร “ฝ่าต่อ”
• Tribes (2008): เน้นพลังของการสร้างชุมชนและการนำพากลุ่มคนที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน
• Linchpin (2010): ชี้ว่าคนทำงานต้องสร้างคุณค่าและความแตกต่าง จนกลายเป็น “ฟันเฟืองสำคัญ”
• This Is Marketing (2018): สรุปแนวคิดการตลาดยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ขายของ แต่คือการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

… หนังสือของเขามักไม่ยาว แต่เต็มไปด้วยตัวอย่างจริงและการเล่าเรื่องที่กระชับ อ่านง่าย และชวนให้ผู้อ่าน “คิดตาม” มากกว่าการบอกสูตรสำเร็จ

บล็อกที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่ง

นอกจากหนังสือแล้ว Seth ยังเขียน บล็อกการตลาด ทุกวันมาตั้งแต่ปี 2002 และปัจจุบันยังทำต่อเนื่องกว่า 20 ปี เนื้อหาแต่ละวันสั้นบ้างยาวบ้าง แต่ทุกโพสต์มีมุมมองที่คมชัดและเป็นแรงบันดาลใจ บล็อกของเขามีผู้อ่านนับล้าน และมักถูกอ้างถึงในวงการการตลาด การบริหาร และการสร้างแรงบันดาลใจ

สิ่งที่ทำให้บล็อกนี้โดดเด่นคือความสม่ำเสมอ และการเล่าแนวคิดซับซ้อนให้เข้าใจง่ายในไม่กี่ย่อหน้า ซึ่งสะท้อนตัวตนของเขาในฐานะนักคิดเชิงกลยุทธ์และนักเล่าเรื่องไปพร้อม ๆ กัน

ความคิดหลักที่ Seth Godin ผลักดัน

สิ่งที่ทำให้ Seth Godin แตกต่างจากนักเขียนการตลาดทั่วไปคือเขาไม่เน้นสูตรการขายตรง ๆ แต่ชี้ให้เห็น ปรัชญาการตลาด ที่ลึกซึ้ง ตัวอย่างแนวคิดหลัก ได้แก่:

• Permission Marketing: ลูกค้าเต็มใจมีส่วนร่วม
• Purple Cow: ธุรกิจต้องสร้างสิ่งพิเศษ ไม่ใช่แค่ทำเหมือนใคร ๆ
• Tribes: การตลาดคือการสร้างกลุ่มคนที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน
• Remarkability: สิ่งที่ควรทำตลาดคือสิ่งที่ “น่าพูดถึง”
• Empathy in Marketing: เข้าใจลูกค้ามากกว่าพยายามบังคับลูกค้า

… แนวคิดเหล่านี้กลายเป็น “กรอบความคิด” ที่ธุรกิจยุคดิจิทัลใช้เป็นหลักการในการสร้างผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ และการสื่อสารกับลูกค้า

การสอนและการสร้างคอร์สออนไลน์

Seth Godin ยังสร้าง altMBA ในปี 2015 ซึ่งเป็นคอร์สการเรียนรู้แบบออนไลน์ที่เน้นการทำงานจริง การลงมือ และการฝึกคิดวิเคราะห์เชิงลึก โดยผู้เรียนจะทำงานร่วมกันในกลุ่มย่อย ๆ เป็นเวลา 4 สัปดาห์

คอร์สนี้ไม่เหมือน MBA ดั้งเดิมที่เน้นทฤษฎี แต่เป็นการลงสนามจำลองธุรกิจ การบริหาร และการสื่อสาร ทำให้ altMBA กลายเป็นคอร์สที่มีชื่อเสียงในหมู่นักการตลาดและผู้ประกอบการรุ่นใหม่

ชีวิตส่วนตัวและการดำเนินชีวิต

แม้จะเป็นบุคคลสาธารณะ Seth Godin มีชีวิตส่วนตัวที่เรียบง่าย เขาอาศัยอยู่ที่เมือง Hastings-on-Hudson รัฐนิวยอร์ก กับภรรยา Helene และลูก ๆ โดยใช้ชีวิตสงบ ไม่หวือหวา แต่เต็มไปด้วยการอ่าน เขียน และแบ่งปันความคิดใหม่ ๆ

เขามักปฏิเสธการเข้าสู่ “โลกธุรกิจแบบดั้งเดิม” ที่เน้นผลกำไรสูงสุด แต่กลับเลือกทางที่ทำให้ตัวเองมีอิสระในการสร้างสรรค์ เขาเคยพูดว่า “ผมไม่อยากเป็นนักธุรกิจที่รวยที่สุดในสุสาน ผมอยากเป็นคนที่ฝากงานเขียนและแนวคิดที่มีประโยชน์ไว้กับโลกนี้มากกว่า”

ผลกระทบต่อวงการการตลาด

Seth Godin ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน นักคิดด้านการตลาดที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก หนังสือและบล็อกของเขาเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนมองการตลาดจากการ “ยัดเยียดขาย” ไปสู่การ “สร้างคุณค่าและความสัมพันธ์”

เขามีอิทธิพลต่อบริษัทตั้งแต่สตาร์ตอัปเล็ก ๆ ไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับ Fortune 500 และยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จำนวนมากทั่วโลก

มรดกทางความคิด

หากสรุปสิ่งที่ Seth Godin ฝากไว้กับโลกการตลาด คงเป็น 3 เรื่องสำคัญ

• การตลาดคือการเล่าเรื่อง: ผู้คนซื้อเรื่องราวและความหมาย ไม่ใช่แค่สินค้า
• การตลาดคือการสร้างการเปลี่ยนแปลง: ไม่ใช่เพียงการเพิ่มยอดขาย แต่คือการสร้างสิ่งใหม่ที่มีคุณค่าต่อผู้คน
• การตลาดคือความสัมพันธ์: ธุรกิจที่ยั่งยืนคือธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า

สรุป

จากเด็กชายผู้รักการอ่านและสนใจปรัชญา สู่การเป็นผู้ประกอบการที่ขายกิจการให้ Yahoo! และก้าวต่อมาเป็นนักเขียนและนักคิดด้านการตลาดที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในโลก Seth Godin คือบุคคลที่เปลี่ยนวิธีคิดของนักการตลาดนับล้าน และผลงานของเขายังคงเป็นแสงสว่างสำหรับใครก็ตามที่อยากสร้างธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือแบรนด์ที่มีความหมาย

ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงดัง การแข่งขัน และข้อมูลล้นเกิน แนวคิดของ Seth Godin เตือนเราว่า การตลาดที่แท้จริงคือการเข้าใจและรับใช้ผู้คน ไม่ใช่การตะโกนแข่งกันเสียงดังที่สุด

. : รู้จัก PAM Realtime CDP ซอฟต์แวร์ไทยสำหรับการตลาดยุคใหม่ ที่ PAMs.ai : .

ภาพจาก

sethgodin.com

contagious.com/news-and-views/seth-godin-on-marketings-strategy-challenge

tuneintoleadership.com/newsletter/seth-godin-on-enrollment