Lead Nurturing (2) กรณีศึกษา “สร้างสัมพันธ์” จากหลากหลายธุรกิจ : [ MarTech Basic EP.12 ]

martech-basic 23 Sep 2025

Author : superadmin

ในยุคที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย การจะปิดการขายทันทีไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ธุรกิจจึงต้องปรับกลยุทธ์จากการ “ขาย” ไปสู่การ “สร้างความสัมพันธ์” ไว้ก่อน และรอคอยจนกว่าลูกค้าจะเกิดความต้องการจริงๆ ศึกษาเสร็จ และตัดสินใจเสร็จ

นั่นคือที่มาของคำว่า Lead Nurturing หรือการดูแลลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์นี้คือกระบวนการสร้างความไว้วางใจและสร้างความผูกพันกับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นลูกค้า เพื่อให้ในที่สุดแล้ว เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาพร้อมจะซื้อ พวกเขาจะนึกถึงแบรนด์ของเราเป็นอันดับแรก

Lead Nurturing สอดคล้องกับทฤษฎีการตลาดที่เรียกว่า Marketing Funnel หรือกรวยการตลาด ซึ่งแบ่งขั้นตอนการเดินทางของผู้บริโภคออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่

  • Top of Funnel (Awareness): สร้างการรับรู้
  • Middle of Funnel (Consideration): สร้างความสนใจและให้ข้อมูลเพื่อพิจารณา
  • Bottom of Funnel (Conversion): เปลี่ยนเป็นลูกค้า

การทำ Lead Nurturing มุ่งเน้นไปที่ส่วนกลางของกรวย (Middle of Funnel) เพื่อให้ข้อมูลที่มีคุณค่าและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งพวกเขาตัดสินใจซื้อในที่สุด ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของ Relationship Marketing ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้ามากกว่าการทำธุรกรรมแบบฉาบฉวย

Customer loyalty online service or platform. Marketing program development for client retention. Customer loyalty tracking. Flat vector illustration

1. ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นและค้าปลีก

สำหรับธุรกิจนี้ Lead Nurturing ไม่ใช่แค่การเสนอส่วนลด แต่เป็นการสร้าง “ประสบการณ์” และ “ไลฟ์สไตล์” ให้กับลูกค้า ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการใช้ User-Generated Content (UGC) หรือการที่ลูกค้าโพสต์รูปตัวเองใส่เสื้อผ้าของแบรนด์ ซึ่งกลายเป็นหลักฐานทางสังคม (Social Proof) ที่มีพลังมาก

นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิค Personalization หรือการนำเสนอสิ่งที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละคน เช่น

  • VIP Customer Experience: บริการสไตลิสต์ส่วนตัว, เชิญชมคอลเลกชันใหม่ก่อนใคร, หรือมอบของขวัญและส่วนลดพิเศษในวันเกิด
  • Fashion Education Content: สร้างคุณค่าผ่านคอนเทนต์ความรู้ เช่น คู่มือการแต่งตัวตามรูปร่าง, การอัปเดตเทรนด์แฟชั่น, หรือคำแนะนำการดูแลรักษาเสื้อผ้า
  • Seasonal Nurturing: ส่งคำแนะนำแฟชั่นตามฤดูกาลหรือเทศกาลสำคัญ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความต้องการ
  • Cross-selling ที่ชาญฉลาด: แนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกัน เช่น กระเป๋าหรือรองเท้าที่เข้าชุด เพื่อเพิ่มยอดขาย
  • Omni-channel: ผสมผสานประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

จุดสำคัญของ Lead Nurturing ในค้าปลีก/แฟชั่น:

  • Experience มากกว่าสินค้า : มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่พิเศษ ไม่ใช่แค่ขายของ
  • Personal Touch : การดูแลแบบส่วนตัว ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและมีคุณค่า
  • Long-term Relationship : สร้างความสัมพันธ์ยั่งยืนกับผู้บริโภค เพราะการหาลูกค้าใหม่แพงกว่าการรักษาลูกค้าเก่า 5 เท่า 6 Insurance Lead Generation Strategies
  • Omni-channel : ผสมผสานออนไลน์และออฟไลน์ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าLead Nurturing ในค้าปลีกและแฟชั่นต้องเน้นการสร้างLifestyle และ Community มากกว่าการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว

ตัวอย่างการลงมือทำจริง ก็เช่นการให้คะแนนสะสมและมีโปรแกรมรีไซเคิลเสื้อผ้า หรือการให้บริการสไตลิสต์ฟรี ทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์ในระดับอารมณ์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ Customer Lifetime Value (CLV) หรือมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า เพราะการรักษาลูกค้าเก่านั้นมีต้นทุนต่ำกว่าการหาลูกค้าใหม่ถึง 5 เท่า

2. ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน

สำหรับธุรกิจนี้ การสร้างความผูกพันคือการให้ “แรงบันดาลใจ” และ “ความรู้” ตัวอย่างเช่น

  • Home Inspiration Magazine: ส่งนิตยสารไอเดียแต่งบ้านให้ลูกค้าฟรี เพื่อให้พวกเขามีแรงบันดาลใจในการตกแต่ง
  • Free Home Design Consultation: เสนอบริการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบฟรี
  • Workshop การตกแต่งบ้าน: จัดคลาสสอนจัดดอกไม้หรืองานฝีมือ เพื่อสร้างชุมชนและความผูกพันกับแบรนด์

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ IKEA ที่จัด Room Setup หรือทำแคตตาล็อกแสดงการแต่งห้อง เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพและได้ไอเดียไปปรับใช้

Managers and generation of sales by marketing funnel. Tiny people working on conversion of digital data and ideas into money flat vector illustration. Advertising in social media, SEO service concept

3. ธุรกิจประกันภัย

ในธุรกิจที่ต้องสร้างความไว้วางใจสูงอย่างประกันภัย การดูแลลูกค้าคือหัวใจสำคัญ ตัวอย่างเช่น

  • Insurance Health Check: เสนอบริการตรวจสอบกรมธรรม์เก่าฟรี เพื่อหาช่องว่างที่อาจเป็นความเสี่ยง
  • ความรู้เรื่องการวางแผนการเงิน: จัดสัมมนาเล็ก ๆ เพื่อให้ความรู้เรื่องการออมและการลงทุน
  • การติดตามในเหตุการณ์สำคัญ: ส่งการ์ดอวยพรในวันเกิดหรือวันครบรอบ พร้อมแนะนำให้ทบทวนความคุ้มครอง

เมื่อลูกค้าเห็นถึงความเอาใจใส่ พวกเขาจะเกิดความรู้สึก “ไว้ใจ” และจะนึกถึงตัวแทนเป็นคนแรกเมื่อต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งแนะนำเพื่อนมาให้ ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากกลยุทธ์ Permission Marketing ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจจนผู้บริโภค “อนุญาต” ให้เราสื่อสารกับพวกเขาได้อย่างต่อเนื่อง

4. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

การสร้างความสัมพันธ์ในธุรกิจนี้คือการเป็น “ที่ปรึกษา” ที่ลูกค้าสามารถพึ่งพาได้ ตัวอย่างเช่น

  • Newsletter ข้อมูลตลาด: ส่งข้อมูลแนวโน้มราคาบ้านในย่านต่าง ๆ ให้ลูกค้าอ่านฟรี
  • Home Buying Guide: แจกคู่มือการซื้อบ้านฉบับสมบูรณ์พร้อมเช็กลิสต์
  • การนัดดูบ้านแบบไม่กดดัน: เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาดูบ้านเพื่อศึกษาข้อมูลและไม่เร่งรัดการขาย

การให้ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอและไม่กดดันจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้าจดจำและกลับมาหาเมื่อพร้อมที่จะซื้อจริง

5. ธุรกิจตัวแทนขายรถยนต์

การดูแลลูกค้าในธุรกิจนี้คือการดูแล “สินทรัพย์” ที่พวกเขามีอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น

  • บริการตรวจเช็ครถฟรี: เชิญลูกค้าที่มีรถเก่าเข้ามาตรวจสภาพฟรี
  • Car Care Tips: ส่งเอกสารแนะนำการดูแลรักษารถตามฤดูกาล
  • Trade-in Evaluation: ให้บริการประเมินราคารถเก่าโดยไม่มีข้อผูกมัด

การทำเช่นนี้ทำให้ลูกค้าเห็นว่าแบรนด์ไม่ได้สนใจแค่การขาย แต่ยังสนใจการดูแลหลังการขายด้วย เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้าต้องการซื้อรถคันใหม่ ร้านที่ดูแลพวกเขามาตลอดจะกลายเป็นตัวเลือกแรกในใจโดยปริยาย

บทสรุป

Funnel flat infographics with funnel icon with text layers doodle human characters and social networking icons vector illustration

จากตัวอย่างของธุรกิจต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า Lead Nurturing ไม่ใช่เพียงแค่การส่งอีเมลหรือส่วนลด แต่เป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้หลักการของการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization), การให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ (Content Marketing), และการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว (Relationship Marketing)

ทั้งหมดนี้จะช่วยเปลี่ยนผู้สนใจให้กลายเป็นลูกค้าที่ภักดีกับแบรนด์ในที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือเป็นการเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นที่การ “ขายสินค้า” ไปสู่การ “สร้างความสัมพันธ์” กับผู้คน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดในยุคปัจจุบัน

. : รู้จัก PAM Realtime CDP ซอฟต์แวร์ที่ช่วยทำ Lead Nurturing ได้ที่ PAMs.ai : .

[ ภาพประกอบจาก freepik.com ]

Share :

Start using PAM today

Reach every customer steps, make every action count.

Related Blogs

martech-basic

Lead Scoring คืออะไร ? ให้คะแนนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างยอดขายได้อย่างคุ้มค่า : [ MarTech Basic EP.13 ]

การทำการตลาดในยุคดิจิทัลเต็มไปด้วยข้อมูลมหาศาล ทั้งจากเว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ อีเมล หรือแพลตฟอร์มโฆษณาต่างๆ ทุกจุดสัมผัสของลูกค้ากับแบรนด์ ล้วนทิ้ง “ร่องรอยดิจิทัล” ไว้ การจัดการกับข้อมูลเหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถแยกแยะว่า “ใครคือกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อจริง” ก็คือ Lead Scoring หรือ “การให้คะแนนลูกค้าเป้าหมาย” Lead Scoring ในมุมมองการตลาด...

martech-basic

Lead Nurturing ปั้นกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้า : [ MarTech Basic EP.11 ]

Lead Nurturing เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ คือการดูแลคนที่สนใจสินค้าของเราอย่างต่อเนื่อง จนกว่าพวกเขาจะพร้อมที่จะซื้อ แทนที่จะรีบเร่งขายตั้งแต่แรกพบ เราจะค่อยๆ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สร้างความไว้วางใจ จนสุดท้ายพวกเขาจะเลือกซื้อจากเราเอง ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารล้นเหลือ ลูกค้าสามารถเลือกได้เยอะมาก Lead Nurturing เลยกลายเป็นอาวุธลับที่ช่วยให้เราโดดเด่นจากคู่แข่ง มีการศึกษาจาก DemandGen Report พบว่าบริษัทที่ใช้เทคนิคนี้ขายได้เพิ่มขึ้น 20%...

martech-basic

ทำไมมนุษย์ยังสำคัญในโลก Marketing Automation และ SaaS ? : [ MarTech Basic EP.10 ]

ในยุคที่คำว่า “AI” ถูกใช้มากในทุกวงการรวมถึงการตลาด มีคำถามว่าเรายังจำเป็นต้องมี “ที่ปรึกษาที่เป็นมนุษย์” อีกหรือไม่ ? คำตอบคือ “ยังจำเป็น และจำเป็นมากกว่าที่เคย” ด้วยหลายเหตุผลต่อไปนี้...

martech-basic

Remarketing VS Retargeting ความหมายและความแตกต่าง : [ MarTech Basic EP. 09 ]

Remarketing คือการนำข้อมูลลูกค้าหรือผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาใช้ซ้ำ เพื่อติดต่อพวกเขาอีกครั้งผ่านเมลหรือ SMS หรือแอพแชท ... ส่วน Retargeting เน้นไปที่การติดตามพฤติกรรมออนไลน์ ของผู้ใช้ เช่น การที่มีคนเข้ามาดูสินค้าบนเว็บแต่ยังไม่ได้ซื้อ จากนั้นเขาก็เห็นโฆษณาแสินค้านั้นบนแพลตฟอร์มต่างๆ ...