Demis Hassabis จากกระดานหมากรุกสู่รางวัลโนเบลและงานเอไอ : [ AI People EP.06 ]
ai-people 09 Oct 2025
Author : superadmin
Sir Demis Hassabis ไม่ได้เป็นเพียงผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Google DeepMind เท่านั้น แต่เขาคือปรากฏการณ์ทางสติปัญญาที่หาได้ยาก ด้วยภูมิหลังที่ผสมผสานระหว่างความเป็น อัจฉริยะด้านเกม ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาการรู้คิด (Cognitive Neuroscience) และ นักพัฒนาเกมวิดีโอ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่อายุยังน้อย
เส้นทางอาชีพของเขาคือการเดินทางอันยาวนานในการทำความเข้าใจและจำลองความฉลาดของมนุษย์ เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” (Artificial General Intelligence – AGI) ที่จะช่วยแก้ปัญหาวิกฤตของโลก
วัยเยาว์ที่เป็นอัจฉริยะ: หมากรุก, เกม, และการเขียนโค้ด
ชีวิตของ Hassabis ถูกกำหนดด้วยความสนใจในเรื่อง “เกม” และ “การคิดเชิงกลยุทธ์” มาตั้งแต่เด็ก เขาเกิดในลอนดอน ปี 1976 โดยมีบิดาเป็นชาวกรีกไซปรัสและมารดาเป็นชาวจีนจากสิงคโปร์
Hassabis เริ่มเล่นหมากรุกตั้งแต่อายุสี่ขวบ และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยบรรลุระดับ “หมากรุกมาสเตอร์” (Chess Master) เมื่ออายุเพียง 13 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับเยาวชนที่เก่งที่สุดในโลก
การฝึกฝนหมากรุกอย่างจริงจังนี้ได้สอนทักษะสำคัญที่เขาจะนำไปใช้ใน AI: การวางแผนล่วงหน้า การประเมินผลลัพธ์ในระยะยาว และการจัดการกับความซับซ้อน
ความสนใจในเกมขยายไปสู่การสร้างสรรค์ เมื่อเขาซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องแรกด้วยเงินรางวัลจากการแข่งขันหมากรุก เขาเริ่มเขียนโปรแกรมด้วยตัวเองและเข้าสู่วงการพัฒนาเกมตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี โดยทำงานที่ Bullfrog Productions ในฐานะนักออกแบบและโปรแกรมเมอร์ AI
เขายังได้ร่วมออกแบบและเป็นโปรแกรมเมอร์หลักของเกมคลาสสิกที่ขายดีทั่วโลกอย่าง Theme Park (1994) ซึ่งเป็นเกมแนวจำลองสถานการณ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ก่อนจะร่วมก่อตั้งสตูดิโอเกมของตัวเองคือ Elixir Studios ในปี 1998 ซึ่งผลิตเกมที่ใช้เทคโนโลยี AI ล้ำสมัย
เข้าสู่โลกวิชาการ หาคำตอบในสมองมนุษย์
หลังจากขายหุ้นใน Elixir Studios ในปี 2005 Hassabis ตัดสินใจกลับไปสู่โลกวิชาการเพื่อค้นหาคำตอบที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความฉลาดของมนุษย์เพื่อนำมาพัฒนา AI
Demis เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอก (Ph.D.) ในสาขา ประสาทวิทยาการรู้คิด (Cognitive Neuroscience) ที่ University College London (UCL) งานวิจัยของเขามุ่งเน้นไปที่กลไกการทำงานของความจำและจินตนาการในสมองมนุษย์
Hassabis ค้นพบความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างสมองส่วนที่รับผิดชอบความทรงจำ (โดยเฉพาะความทรงจำอัตชีวประวัติ) กับสมองส่วนที่ใช้ในการจินตนาการถึงสถานการณ์ใหม่ๆ ซึ่งความเข้าใจนี้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างอัลกอริทึม AI ที่สามารถวางแผนและจำลองความเป็นไปได้ในอนาคต
ก่อตั้ง DeepMind แล้วขายกิจการให้ Google
ด้วยพื้นฐานอันแข็งแกร่งทั้งจากการเป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ นักพัฒนาเกม และนักประสาทวิทยา ในปี 2010 Hassabis ได้ร่วมก่อตั้งบริษัท DeepMind Technologies ในลอนดอน ร่วมกับ Shane Legg และ Mustafa Suleyman โดยมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน “การแก้ปัญหาความฉลาด (Intelligence) และใช้มันเพื่อแก้ปัญหาอื่นๆ ทุกอย่าง”
DeepMind ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการพัฒนาเทคนิค Deep Reinforcement Learning ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง Deep Learning และ Reinforcement Learning และได้สร้าง AI ที่สามารถเรียนรู้การเล่นเกม Atari คลาสสิก 49 เกมได้ด้วยตัวเอง โดยรับข้อมูลจากภาพพิกเซลเท่านั้น
ในปี 2014 Google ได้เข้าซื้อกิจการ DeepMind ในฐานะการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ณ เวลานั้น โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือการรักษาความเป็นอิสระในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
AlphaGo: การพิชิตเกม Go และการสร้างประวัติศาสตร์
ความสำเร็จที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกและได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ AI คือการสร้าง AlphaGo ในปี 2016
เกม Go ถือเป็นความท้าทายสูงสุดของ AI เนื่องจากมีความซับซ้อนของรูปแบบกระดานที่แทบจะไม่มีที่สิ้นสุด (จำนวนทางเลือกมากกว่าจำนวนอะตอมในจักรวาลที่สังเกตได้) ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่ AI จะใช้วิธีการค้นหาทุกทางเลือก (Brute-Force Search) แบบที่ใช้ในหมากรุก
AlphaGo เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมแรกที่สามารถเอาชนะ Lee Sedol แชมป์โลก Go ได้ถึง 4-1 เกม ซึ่งเป็นการพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า AI สามารถพัฒนา “สัญชาตญาณ” และ “ความคิดสร้างสรรค์เชิงกลยุทธ์” ในระดับเหนือมนุษย์ได้สำเร็จ
AlphaFold : ใช้ AI แก้ปัญหาชีววิทยาจนได้รางวัลโนเบล
ต่อจาก AlphaGo DeepMind ได้นำความสามารถของ AI ไปใช้แก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะปัญหาที่นักวิทยาศาสตร์แก้ไม่ได้มานานกว่าครึ่งศตวรรษ นั่นคือ “ปัญหาการพับตัวของโปรตีน (Protein Folding Problem)”
ในปี 2020 DeepMind เปิดตัว AlphaFold ซึ่งเป็น AI ที่สามารถคาดการณ์ “โครงสร้างสามมิติของโปรตีนจากลำดับกรดอะมิโน” ได้อย่างแม่นยำในระดับที่เทียบเท่ากับการทดลองจริง
ความสำเร็จนี้ถือเป็นการแก้ไขปัญหาใหญ่ทางชีววิทยา และส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการพัฒนายา การรักษาโรค และความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับชีวิต

ในปี 2024 Demis Hassabis และ John Jumper ได้รับ รางวัลโนเบลสาขาเคมี จากผลงานที่นำ DeepMind ไปสู่ความสำเร็จในการคาดการณ์โครงสร้างโปรตีนด้วย AI ซึ่งตอกย้ำถึงการเปลี่ยนบทบาทของ AI จากห้องทดลองคอมพิวเตอร์สู่เครื่องมือสำคัญในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์
บทบาทผู้ประกอบการธุรกิจ
นอกจากบทบาทที่ Google DeepMind แล้ว เขายังเป็น ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Isomorphic Labs (ตั้งแต่ปี 2021 ถึงปัจจุบัน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Google ที่ใช้ AI เพื่อค้นพบยาใหม่ๆ โดยตรง ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของเขาในการประยุกต์ AI เพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ปรัชญาและวิสัยทัศน์: AGI และอนาคตของมนุษยชาติ
Demis Hassabis ไม่ได้มอง AI เป็นเพียงเทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูงสุด (The ultimate scientific tool) ที่มีศักยภาพในการขยายขอบเขตความรู้ของมนุษย์
เป้าหมายสูงสุด: Artificial General Intelligence (AGI)
เป้าหมายสูงสุดของ DeepMind คือ AGI ซึ่งเป็น AI ที่สามารถเรียนรู้และประยุกต์ความรู้ในหลากหลายขอบเขตได้เหมือนมนุษย์ (Reasoning, Creativity, Planning)
Hassabis เชื่อว่า AGI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนที่สุดในโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนายาใหม่ๆ หรือการค้นพบทางฟิสิกส์เชิงควอนตัม เขามองโลกที่ AGI ทำให้เกิด “ความอุดมสมบูรณ์อย่างสุดขั้ว” (Radical Abundance) ในสังคม
ความรับผิดชอบและความปลอดภัย
แม้จะมีความหวังอย่างยิ่งต่อ AGI แต่ Hassabis ก็เป็นหนึ่งในผู้นำที่เน้นย้ำถึง ความเสี่ยงและความรับผิดชอบ ในการพัฒนา AI อย่างสม่ำเสมอ เขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการวิจัยด้าน AI Safety และ AI Ethics เพื่อให้มั่นใจว่าระบบ AI ที่ทรงพลังเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาอย่างปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ (Dual-Use) อย่างแท้จริง

มรดกและการสืบทอด
Demis Hassabis ได้เปลี่ยนคำถามว่า “AI ทำอะไรได้บ้าง” เป็นคำถามที่ว่า “เราจะใช้ AI ที่ทรงพลังนี้เพื่ออะไร” เขาทิ้งมรดกไว้ด้วยการสร้างองค์กรที่มีความสมดุลระหว่างความมุ่งมั่นทางวิทยาศาสตร์และผลกระทบเชิงพาณิชย์
ตั้งแต่การพิชิตกระดาน Go ด้วย AlphaGo ไปจนถึงการเปิดตัวโครงสร้างโปรตีนทั้งหมดของมนุษย์ด้วย AlphaFold เขาคือผู้ที่เชื่อมช่องว่างระหว่างประสาทวิทยาของมนุษย์กับอัลกอริทึมของเครื่องจักร ทำให้เราได้เห็นอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ที่แท้จริง
. : รู้จัก PAM Realtime CDP ซอฟต์แวร์การตลาดอัตโนมัติพลัง ai ที่ PAMs.ai : .
ภาพประกอบจาก
fastforward.com.cy/people/demis-hassabis-who-2024-nobel-prize-winner-chemistry
nobelprize.org/prizes/chemistry/2024/hassabis/prize-presentation
queens.cam.ac.uk/about-us/news-events/sir-demis-hassabis-named-in-the-time100-most-influential-list
Share :
Start using PAM today
Reach every customer steps, make every action count.